กะเพรา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ocimum
sanctum L.
ชื่อพ้อง : Ocimum tenuiflorum L.
ชื่อสามัญ : Holy
basil, Sacred Basil
วงศ์ : Lamiaceae
(Labiatae)
ชื่ออื่น : กะเพราขน กะเพราขาว กะเพรา (ภาคกลาง) กอมก้อ
กอมก้อดง (เชียงใหม่) อีตู่ไทย (ภาคอีสาน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูง
30-60 ซม. โคนต้นค่อนข้างแข็ง กะเพราแดงลำต้นสีแดงอมเขียว
ส่วนกะเพราขาวลำต้นสีเขียวอมขาว ยอดอ่อนมีขนสีขาว ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน
รูปรี กว้าง 1-3 ซม. ยาว 2.5-5 ซม. ปลายใบมนหรือแหลม โคนใบแหลม
ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย แผ่นใบสีเขียว มีขนสีขาว ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด
ดอกสีขาวแกมม่วงแดงมีจำนวนมาก กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกัน ปลายเรียวแหลม
ด้านนอกมีขน กลีบดอกแบ่งเป็น 2 ปาก ปากบนมี 4 แฉก ปากล่างมี 1 แฉก
ปากล่างยาวกว่าปากบน มีขนประปราย เกสรเพศผู้มี 4 อัน ผล เป็นผลแห้ง เมื่อแตกออกจะมีเมล็ด
สีดำ รูปไข่
ส่วนที่ใช้ : ใบ และยอดกะเพราแดง
ทั้งสดและแห้ง ทั้งต้น
สรรพคุณ :
แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน
(เกิดจากธาตุไม่ปกติ)
ใช้แก้อาการท้องอืดเฟ้อ
แน่จุกเสียดและปวดท้อง
แก้ไอและขับเหงื่อ
ขับพยาธิ
ขับน้ำนมในสตรีหลังคลอด
ลดไข้
เป็นยาอายุวัฒนะ
เป็นยารักษาหูด กลากเกลื้อน
ต้านเชื้อรา
เป็นยาสมุนไพร ใช้ไล่ หรือฆ่ายุง
เป็นสมุนไพร ไล่แมลงวันทอง
วิธีและปริมาณที่ใช้ :
แก้คลื่นไส้ อาเจียน
(เกิดจากธาตุไม่ปกติ)
อาการท้องอืดเฟ้อ แน่นจุกเสียด
ปวดท้อง
ใช้กะเพราทั้ง 5 ทั้งสด หรือ แห้ง
ชงน้ำดื่ม รับประทาน
เด็กอ่อน ใช้ใบสด 3-4 ใบ
ผู้ใหญ่ ใบแห้ง 1 กำมือ, 4 กรัม ผงแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ หรือ 2 ช้อนแกง ใบสด 25
กรัม
ภายนอก เด็กอ่อน ใบสด 10 ใบ
วิธีใช้ :
ยาภายใน
เด็กอ่อน - ใช้ใบสด ใส่เกลือเล็กน้อย
บดให้ละเอียด ผสมน้ำผึ้ง หยอดให้เด็กอ่อนเพิ่งคลอด 2-3 หยด เป็นเวลา 2-3 วัน
จะช่วยขับลม และถ่ายขี้เทา
ผู้ใหญ่ - ใช้ใบกะเพราแห้ง
ชงกับน้ำดื่ม เป็นยาขับลม ถ้าป่นเป็นผง ให้ชงกับน้ำรับประ
คนโบราณใช้ใบกะเพราสดแกงเลียงให้สตรีหลังคลอดรับประทาน
ช่วยขับลม บำรุงธาตุ
ยายภายนอก
ใช้ใบสดทาบริเวณท้องเด็กอ่อน
จะลดอาการท้องขึ้น ท้องเฟ้อได้
กะเพรามี 2 ชนิด คือ กะเพราขาว และ
กะเพราแดง
กะเพราแดงมีฤทธิ์แรงกว่ากะเพราขาว ในทางยานิยมใช้กะเพราแดง
แต่ถ้าประกอบอาหารมักใช้กะเพราขาว
ยาเพิ่มน้ำนมในสตรีหลังคลอด
ใช้ใบกะเพราสด 1 กำมือ
แกงเลียงรับประทานบ่อยๆ หลังคลอดใหม่ๆ
เป็นยารักษากลากเกลื้อน
ใช้ใบสด 15-20 ใบ
ตำหรือขยี้ให้น้ำออกมา ใช้ทาถูตรงบริเวณที่เป็นกลาก ทาวันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะหาย
เป็นยารักษาหูด
ใช้ใบกะเพราแดงสด ขยี้ทาตรงหัวหูด
เข้า-เย็น จนกว่าหัวหูดจะหลุด
ข้อควรระวัง :
น้ำยางที่ใช้สำหรับกัดหูดนี้เป็นพิษมาก
ดังนั้นควรใช้ด้วยความระวัง
- อย่าให้เข้าตา
- ให้กัดเฉพาะตรงที่เป็นหูด
อย่าให้ยางถูกเนื้อดี ถ้าถูกเนื้อดี เนื้อดีจะเน่าเปื่อย ซึ่งรักษาให้หายได้ยาก
เป็นยาสมุนไพร ใช้ไล่หรือฆ่ายุง
ใช้ทั้งใบสดและกิ่งสด 1 กิ่งใหญ่ ๆ
เอาใบมารขยี้ แล้ววางไว้ใกล้ๆ ตัว จะช่วยไล่ยุงได้ และยังสามารถไล่แมลงได้ด้วย
น้ำมันกะเพรา เอาใบสดมากลั่น จะได้น้ำมันกะเพรา ซึ่งมีคุณสมบัติไล่ยุงได้ดีกว่าต้นสดๆ
เป็นสมุนไพรไล่แมลงวันทอง
ใช้น้ำมันที่กลั่นจากใบสด
ตามความเหมาะสม น้ำมันหอมระเหยนี้ไปล่อแมลง จะทำให้แมลงวันทองบินมาตอมน้ำมันนี้
สารเคมี :
ในใบพบ Apigenin,
Ocimol, Linalool , Essential Oil, Chavibetal
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น